เนื่องจากมีการคาดการณ์ไว้ว่า น้ำหนักของอาคารโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กขณะสร้างซุยเด็นที่ไฟไหม้จากภัยของสงครามด้วยวิธีก่อสร้างปัจจุบันเมื่อปี 1945 จะเกิน 350 ตัน ทำให้มีความจำเป็นต้องทราบโครงสร้างและสภาพใต้ดินของร่องรอยอาคารซุยโฮเด็นและได้มีการดำเนินการขุดสำรวจพบสุสานขึ้นโดยขออนุญาตจากตระกูลดาเตะ
อัฐิถูกค้นพบในสภาพที่ถูกฝังกลบด้วยปูนขาวร่วน ซึ่งผลจากการตรวจสอบพบว่าศพของดาเตะ มาซามูเนะถูกเก็บไว้ในโลงแบบนั่งทำจากไม้รูปวงรี และมีการอัดปูนขาวเอาไว้ระหว่างช่องว่างเพื่อเป็นสารป้องกันการเสื่อมสลาย โดยสภาพการจัดเก็บอัฐิด้วยส่วนประกอบปูนขาวหรือแคลเซียมออกไซด์นั้นดีมาก
กรณีที่จะฟื้นฟูรูปลักษณ์ (ใบหน้า) ขณะมีชีวิตอยู่จากอัฐินั้น มีสองวิธีคือวิธีการฟื้นฟูใบหน้าขณะมีชีวิตอยู่โดยการหารค่าเฉลี่ยและนำดินเหนียวปั้นติดกะโหลกศีรษะโดยอ้างอิงจากพื้นที่ที่ถูกค้นพบอัฐิ รวมถึงข้อมูลต่าง ๆ เช่น สภาพแวดล้อมการใช้ชีวิตและยุคสมัยที่เจ้าของอัฐิมีชีวิตอยู่จริง (ลักษณะพิเศษของอัฐิที่ปรากฏให้เห็นด้วยสภาพแวดล้อมทางพื้นที่ ทางยุคสมัย ทางพันธุกรรม และการใช้ชีวิต) และวิธีการแสดงรูปลักษณ์ขณะมีชีวิตอยู่ด้วย 3D (ภาพสามมิติ) และใช้ CG (คอมพิวเตอร์กราฟฟิก) จากค่าตัวเลขที่วัดจริง (ผลการวัดความใหญ่ ความยาว ความกว้าง) ของกะโหลกศีรษะ กรณีเป็นวิธีแรกนั้น เนื่องจากจำเป็นต้องใช้เทคนิคและประสบการณ์เฉพาะทาง จึงถูกฟื้นฟูด้วยการปฏิบัติโดยใช้มือของผู้เชี่ยวชาญอย่างเช่น นิติเวชศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ และมานุษยวิทยา ส่วนวิธีที่สองเป็นวิธีที่คอมพิวเตอร์จัดทำโดยอ้างอิงจากค่าตัวเลขที่หารได้ แต่รูปลักษณ์ที่ได้จะออกมาในรูปแบบของภาพ ซึ่งภาพรูปลักษณ์ที่ฟื้นฟูแล้วของดาเตะ มาซามูเนะที่จัดเก็บในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ซุยโฮเด็นนั้นเป็นภาพที่ทำขึ้นด้วยวิธีแรก
เข็มกลัดทองถูกค้นพบในสภาพที่เก็บไว้ในซองหนังจากห้องในสุสานประมาณ 3 เมตรจากพื้นดินของพื้นที่ซุยโฮเด็น โดยเข็มกลัดทองนี้ประกอบไปด้วยแผ่นกลมขนาดเล็ก 11 ชิ้นและ 1 ชิ้นที่ใส่ห่วงภายในนั้นมีการเคลือบ (ชุบทอง) ทองสัมฤทธิ์ ขนาดแนวตั้ง 3.8 เซนติเมตร แนวนอน 3.9 เซนติเมตร และน้ำหนัก 12.51 กรัม อนึ่ง เนื่องจากสิ่งของฝังรวมไปพร้อมกับผู้ล่วงลับนี้นั้น มีลักษณะคล้ายกับ “สายประคำ” ที่ผู้นับถือคาทอลิกในยุโรปสมัยนั้นใส่ที่ตัว จึงสันนิษฐานว่าเป็นสิ่งของที่สืบต่อกันมาจากยุโรป
สิ่งของฝังรวมไปพร้อมกับผู้ล่วงลับจำนวน 30 รายการนั้นถูกค้นพบจากห้องในสุสาน แต่จาก “บันทึกเทซังโคจิกะคิโระคุ” (เอกสารเก่าที่บันทึกเกี่ยวกับการเมืองของดาเตะ มาซามูเนะ)” พบว่าชุดเกราะเป็นชุดเกราะที่ดาเตะ มาซามูเนะสวมใส่จริง ส่วนเครื่องเขียน เช่น แท่งหมึกและพู่กัน ก็มีร่องรอยการใช้งานอยู่ด้วย อีกทั้ง ยังมีไปป์ที่ทำให้ทราบว่ามาซามูเนะเป็นคนติดบุหรี่ และมีสิ่งของที่สืบต่อกันมาจากยุโรปรวมอยู่ด้วยเช่นกัน
ไม่มีการค้นพบมรดกและเส้นผมของคนตายที่เก็บไว้เป็นที่ระลึกซึ่งภรรยา (โยโทะกุอิน) ใช้จากห้องในสุสานของดาเตะ มาซามูเนะ
ของเก่าที่สุดในบรรดาของที่เก็บรักษาไว้คือ แท่นจารึกหินเรียบ (สถูปเจดีย์หิน : แท่นจารึกของคนตายที่ทำจากหินแผ่นเรียบ) ซึ่งค้นพบจากซากโบราณคันเซ็นเด็น (ทามายะ : สุสานบูชาดวงวิญญาณดาเตะ ทาดามูเนะผู้ครองแคว้นคนที่ 2) จากตัวอักษรที่สลักไว้พบว่าแท่นจารึกหินเรียบเป็นของที่ทำขึ้นในยุคราชวงศ์เหนือ-ใต้ อนึ่ง เนื่องจากแท่นจารึกหินเรียบไม่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลดาเตะ จึงสันนิษฐานว่าเป็นของที่ถูกใช้เป็นวัสดุหินขณะก่อสร้างสุสานของดาเตะ ทาดามูเนะผู้ครองแคว้นคนที่ 2
มีเอกสารการขุดสำรวจพบซากโบราณของดาเตะ ทาดามูเนะผู้ครองแคว้นคนที่ 2 และดาเตะ สึนามูเนะผู้ครองแคว้นคนที่ 3 ถูกเก็บรักษาเอาไว้