ดาเตะ มาซามูเนะ ผู้ครองนครคนแรกของแคว้นเซนไดเกิดที่ เดวะคุนิ (ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวะยามากาตะ) ในปี 1567 ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงสิ้นสุดของยุคสงครามที่กินเวลาต่อเนื่องประมาณ 100 ปี นับตั้งแต่สงครามโอนินเมื่อปี 1467 ซึ่งตรงกับช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่มีการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยครั้งใหญ่ ภายใต้ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ดาเตะ มาซามูเนะเองกลับต้องใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยปัญหาและความยุ่งยาก
หลังรับหน้าที่ผู้สืบทอดสกุลด้วยวัย 18 ปี มาซามูเนะได้เข้าปกครองแผ่นดินมินามิโออุในฐานะนายพลผู้เก่งกาจ และเป็นที่รู้จักโดยทั่วไปในนามของ “มาซามูเนะมังกรตาเดียว” ผ่านไป 10 หลังถูกย้ายจากโยเนซาวะให้ไปประจำการที่อิวะเดยามะ (ภาคเหนือของจังหวัดมิยางิ) ตามคำสั่งของ โทโยโตมิ ฮิเดโยชิ เมื่อปี 1591 มาซามูเนะได้รับอนุญาตจาก โทกุงาวะ อิเอยาสุ ในปี 1601 ให้ดำเนินการสร้างปราสาทเซนไดตอนที่เขาได้อายุ 35 ปี หลังจากนั้นเป็นต้นมา มาซามูเนะก็ได้อุทิศตนอย่างเต็มที่เพื่อส่งเสริมการเมืองการปกครอง อุตสาหกรรม และวัฒนธรรมของแคว้นเซนได รวมถึงสร้างรากฐานอัตรารายได้ 620,000 โคคุ (หน่วยวัดผลผลิตข้าวทั้งหมดในแต่ละแคว้น) ของแคว้นเซนไดด้วย
นอกจากนี้ อาจกล่าวได้ว่ามาซามูเนะเป็นบุคคลที่มีความพิเศษในฐานะไดเมียวของยุคนั้น เช่น บุกเบิกการค้าขายกับสเปนในระดับแคว้น มีการส่งฮาเซกูระ โรกูเอมง สึเนนางะ ซามูไรข้ารับใช้ไปเป็นทูตเจริญสัมพันธไมตรีกับทวีปยุโรป เป็นต้น จดหมายและโคลงกลอนจากปลายพู่กันของดาเตะ มาซามูเนะจำนวนหลายรายการได้รับการเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์เมืองเซนได ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมาซามูเนะในแง่ของบุคคลแห่งวัฒนธรรมอีกด้วย
มาซามูเนะเสียชีวิตลงด้วยวัย 70 ปีในปี 1636 โดยมีการนำร่างมาฝังไว้บนเนินเคียวกะมิเนะตามคำสั่งเสียของเจ้าตัว
ดาเตะ ทาดามุเนะ เกิดที่เมืองรอบปราสาทโอซาก้าในปี 1599 เป็นบุตรชายคนที่สองของ ดาเตะ มาซามูเนะ ผู้ก่อตั้งแคว้นคนแรก และมีชื่อเรียกในวัยเด็กว่า “โทระคิคุมารุ”
มารดาคือเมโงฮิเมะ (หรือ โยโตคุอิน) ผู้เป็นภรรยาเอกของดาเตะ มาซามูเนะ เมื่ออายุได้สิบสามปี ทาดามูเนะได้เข้าพิธีเก็นปุกุ (พิธีฉลองของผู้ชายเมื่อย่างเข้าสู่วัยหนุ่ม) กับโชกุนลำดับที่สอง โทกุงะวะ ฮิเดะทาดะ และได้รับการประทานตัวอักษรคันจิ “忠 (ทาดา)” จนเกิดเป็นชื่อเรียกที่สมบูรณ์ว่า ทาดามุเนะ
ทาดามูเนะสืบทอดอำนาจขึ้นเป็นผู้ครองแคว้นเมื่ออายุ 38 ปีหลังมาซามูเนะผู้เป็นบิดาเสียชีวิตในปี 1636
ทาดามูเนะมีนิสัยเงียบขรึมและซื่อสัตย์ แตกต่างจากผู้เป็นบิดาที่ทุกเรื่องต้องโดดเด่นสะดุดตา เขาได้รับคำชื่นชมว่าเป็นคนที่อ่อนโยน
ในทางตรงกันข้าม ทาดามูเนะเคยพูดกับข้ารับใช้ว่า “อยากเกิดในยุคสงคราม” เขามีความเก่งกาจด้านการใช้ปืนและศิลปะการยิงธนู ฯลฯ อีกทั้งยังออกไปล่าสัตว์อยู่บ่อยครั้ง นับได้ว่ามีความกล้าหาญอย่างเต็มเปี่ยม
ทาดามูเนะก่อตั้งรัฐบาลศักดินาของแคว้นตามหลักนิติธรรม นอกจากการก่อสร้างนิโนะมารุ (ป้อมปราการรอบนอก) ของปราสาทเซนได รวมถึงการก่อสร้างวัดและศาลเจ้า เช่น เซนไดโทโชกุ ฯลฯ แล้ว ทาดามูเนะยังสร้างคุณงามความดีอีกนานัปการในด้านการบริหารปกครองแคว้นเซนได เช่น การสำรวจแปลงที่ดินทั้งหมดและการกำหนดภาษีที่ดินในยุคคันเอ ตลอดจนการบุกเบิกพื้นที่เพาะปลูกแห่งใหม่ เป็นต้น
ด้วยเหตนี้ ทาดามูเนะจึงได้รับการขนานนามว่า “ผู้ครองแคว้นที่เปี่ยมความสามารถในการสร้างและธำรงรักษา”
ทาดามูเนะเสียชีวิตลงด้วยวัย 60 ปี ที่ปราสาทเซนได เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ปี 1658 สุสานของเขาตั้งอยู่บนเนินเขาเคียวกะมิเนะเช่นเดียวกับมาซามูเนะ ร่างของทาดามูเนะถูกฝั่งลงบนพื้นที่ว่างซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งของวัดโคคุโซโดและวัดเบ็ตซึโตไดมันจิที่นิชิมิเนะก่อนที่จะย้ายไปยังเขาอาตาโกะ
สุสานคันเซ็นเด็นสร้างโดย ดาเตะ สึนามูระ ผู้ครองแคว้นคนที่สี่
ดาเตะ สึนามูเนะ เป็นบุตรชายคนที่หกของ ดาเตะ ทาดามูเนะ ผู้ครองแคว้นคนที่สอง เกิดที่นิโนะมารุ (ป้อมปราการรอบนอก) ของปราสาทเซนได ในปี 1640 มารดาผู้ให้กำเนิดคือ ไคฮิเมะ ภรรยารองของทาดามูเนะ แต่ไคฮิเมะเสียชีวิตลงในปี 1642 สึนามูเนะจึงกลายมาบุตรบุญธรรมของ ฟุริฮิเมะ ภรรยาเอกของทาดามูเนะ ทาดามูเนะและฟุริฮิเมะมีบุตรชายคนโตชื่อ โทระจิโยมารุ และบุตรชายคนรองชื่อ มิตสึมูเนะ แต่ทั้งคู่เสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย สึนามูเนะจึงได้ก้าวขึ้นมาเป็นทายาทผู้สืบทอดอำนาจแทน
เมื่อตอน 19 ปี สึนามูเนะสืบทอดรากฐานอัตรารายได้ 620,000 โคคุและก้าวขึ้นมาเป็นผู้ปกครองแคว้นรุ่นที่สาม หลังการเสียชีวิตของทาดามูเนะในปี 1658
อย่างไรก็ตาม ในปี 1660 สึนามูเนะถูกแทรกแซงให้ออกจากตำแหน่งตามคำสั่งของรัฐบาลโชกุนหลังดำรงตำแหน่งได้เพียง 2 ปี
หลังจากนั้น สึนามูเนะได้แสดงพรสรรค์ด้านศิลปะที่มีติดตัวมาตั้งแต่วัยเยาว์ ใช้เวลาเพลิดเพลินอยู่กับโคลงกลอนโบราณของญี่ปุ่น รวมถึงภาพวาดและอักษรที่เขียนด้วยพู่กัน ทุ่มเทอย่างเต็มที่ให้กับละครโนและศาสตร์การชงชาแบบญี่ปุ่นในคฤหาสน์ที่เอโดะชินากาวะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการวาดภาพ สึนามูเนะได้เรียนรู้จาก คาโน ทันยุ (จิตรกรเอกสมัยเอโดะ) และสร้างผลงานชิ้นเอกทั้งการวาดภาพบุคคลและภาพทิวทัศน์ กล่าวกันว่าเขาเรียนวิธีดูแลดาบจาก คุนิคาเนะ ช่างทำดาบ และมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในด้านนี้เช่นกัน นอกจากนี้ สึนามูเนะยังใช้ชีวิตอย่างงดงามในฐานะบุคคลแห่งวัตนธรรม อาทิเช่น การสร้างภาพวาดลงรัก งานประติมากรรม และอุปกรณ์ที่ใช้ในพิธีชงชาขึ้นมาด้วยเอง ฯลฯ หลังลงจากตำแหน่ง
สึนามูเนะเสียที่คฤหาสน์ในชินากาวะ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ปี 1711 ในขณะที่อายุได้ 72 ปี
หลุมฝังศพของของสึนามูเนะตั้งอยู่บนเนินเขาเคียวกะมิเนะเช่นเดียวกับสองรุ่นก่อน สุสานเซ็นโนเด็นสร้างเสร็จในยุคของ ดาเตะ โยชิมูระ ผู้ครองแคว้นคนที่ห้า